เดินทางไปลาวข้ามสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาวที่อำเภอท่าลี่ เข้าสู่หลวงพระบางเมืองมรดกโลก

มีใครอยากไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่สปป.ลาวบ้างค่ะ ยกมือขึ้นเลย หากใครที่ยังไม่เคยไปหรือกำลังคิดอยากจะไปขอแนะนำเส้นทางข้ามด่านพรมแดน ที่ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง ตั้งอยู่ที่บ้านนากระเซ็ง อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ด่านพรมแดนแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลงานของด่านศุลกากรท่าลี่ มีแม่น้ำเหืองเป็นพรมแดนธรรมชาติ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ด่านสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว เป็นพรมแดนกั้นระหว่างอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย และเมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบูลี  สปป.ลาว เพื่อเชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4 ของสปป.ลาว ในแขวงไซยะบูลี สู่เมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่หลายคนรู้จัก และเส้นทางนี้ยังใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่ประเทศเวียดนามและประเทศจีนได้อีกด้วย

ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง

ย้อนมาดูประวัติ ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งกันซักนิดนะค่ะ ด่านนี้ตั้งขึ้นตามกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 49 พ.ศ. 2508 ในอดีตเส้นทางนี้จะใช้สำหรับขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค สินค้าวัสดุก่อสร้าง จากไทยไปลาว ส่วนการท่องเที่ยวยังไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากถนนหนทางไม่สะดวกทำให้เสียเวลาเดินทางเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2546 ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อสร้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหืองไทย-ลาวขึ้น โดยมีข้อตกลงของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย กำหนดให้เป็นด่านถาวรและด่านสากล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวแก่กัน ปัจจุบันสปป.ลาว มีโครงการพัฒนาปรับปรุงถนนลาดยางจากแขวงไซยะบูลี ไปสูเมืองหลวงพระบางเมืองมรดกโลก ระยะทาง 360 กม.

สะพานข้ามด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง

                  กำหนดระยะเวลาเข้า-ออกในราชอาณาจักรทางบก ตั้งแต่เวลา 06.00น.- 18.00 น.นะค่ะ ถ้าใครช้ากว่านี้เป็นอันว่ารู้กันจะต้องหาที่นอนค้างแรมก่อน เพื่อรอเปิดด่านในวันรุ่งขึ้น หากใครกำลังหาที่พักฝั่งชายแดนไทยแนะนำที่นี่เลยโรงแรม Le bar tarry (ขอโปรโมทโรงแรมนี๊ด นึง อิอิ)

แม่ค้าขายเมี่ยงคำที่ไซยะบูลี

สำหรับท่านที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขับบิ๊กไบต์ด้วยความมันส์ ก็ขอแนะนำบริการของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ร่วมจับมือกับ บริษัท นาหลวงขนส่งโดยสารผ่านแดนและท่องเที่ยว ประจำแขวงหลวงพระบาง เป็นรถปรับอากาศมาตรฐาน 1(ข) สายที่ 14 รถโดยสารจะใช้เส้นทางระหว่าง บขส.เลย – ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง(อำเภอท่าลี่)-เมืองแก่นท้าว-แขวงไซยบูลี-แขวงหลวงพระบาง ออกเดินรถทุกวัน  บขส.เลย เวลา 8.00 น. และจากแขวงหลวงพระบางเวลา 7.00น. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง ระยะทาง 394กม.)ค่าโดยสารประมาณ 700 บาท

อัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบ 250 กีบ = 1 บาท (ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ขอให้แลกเงินกีบติดตัวสักเล็กน้อยประมาณ 1-2 พันบาท เผื่อเวลาเจอสินค้าพื้นเมืองแล้วคุณต้องการจะซื้อติดไม้ติดมือ หรือร้านอาหารริมทางบางร้านที่ไม่รับเงินบาท เนื่องจากพี่น้องเราชาวลาวบางท้องถิ่นไม่สะดวกในการคิดคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ราคาสินค้าที่คิดเป็นเงินไทยราคาสูงกว่าราคาจริงและคุณอาจไม่ได้รับเงินทอนเพราะไม่มีเงินบาทสำรองไว้) ส่วนในเขตเมืองคุณสามารถใช้จ่ายเงินไทยได้ตามปกติ บางร้านจะคำนวณราคาเป็นเงินกีบ เงินบาท และเงินดอลลาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไว้ด้วยค่ะ

ถ้าไปเที่ยวสปป.ลาว นอกจากจะต้องลองลิ้มชิมรส อาหารเฝอ(ก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเนี่ยแหละ) ที่แทบจะเรียกว่าอาหารประจำชาติลาวไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เบียร์ลาว (บางคนอ่านว่า เบยลาว หรือเขยลาว ตามอัธยาสัย ) ถ้าอดนี่ถือว่าไปไม่ถึงประเทศลาวกันเลยละ

เงินกีบลาว

มาพูดถึงเบียร์ลาวกันหน่อยนะค่ะ เบียร์ลาวมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 98% ที่เหลืออีกแค่2% จะเป็นกลุ่มผู้มีอันจะกินที่สามารถหาซื้อบรั่นดีหรือวิสกี้ราคาแพงมาดื่มได้ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นชาวบ้านที่ยังยึดถือประเพณีดื่มสุราพื้นบ้านหรือสุรากลั่นเอง (เหล้าพื้นบ้านลาวที่เคยเห็นดีกรีสูงถึง 80ดีกรีแนะ) เบียร์ลาว ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1972 แต่เริ่มเดิมทีใช้ชื่อว่า ลารู (La Rue) แปลว่า ถนน ในภาษาฝรั่งเศส  เป็นการร่วมทุนของนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสและชาวลาวเชื้อสายจีน ด้วยเงินลงทุน 3.75 USD สัดส่วนการถือครองหุ้นฝ่ายฝรั่งเศส 85% ฝ่ายลาว 15% ตั้งโรงงานผลิตอยู่ทางตอนใต้ของนครหลวงเวียงจันทร์ ภายใต้ชื่อ “โรงงานเหล้าเบียร์และน้ำก้อนลาว” ต่อมาในปี ค.ศ.1977 ก็ตกเป็นของรัฐ โดยรัฐบาลสปป.ลาวซื้อหุ้นคืนทั้งหมด และเพื่อต้องการยกระดับให้เป็นเบียร์ที่เข้าถึงได้ทุกระดับชนชั้น จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เบียร์ลาว ตามสโลแกนว่า “เบียร์ลาว เบียร์ของคนลาว คนจริงใจ” ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ลาว บริวเวอรี่ จำกัด  เรื่องเบียร์ลาวพอแค่นี้ก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะเบื่อกันก่อน ถ้ามีโอกาสคราวหน้าจะมาเล่าถึงสปป.ลาวให้ฟังกันใหม่ค่ะ

เบียร์ลาว

คุณคงจะพอได้ข้อมูลการเดินทางผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว หรือด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งกันบ้างนะค่ะ อย่าลืมนะค่ะว่าด่านพรมแดนกำหนดระยะเวลาเข้า-ออกราชอาณาจักร 06.00น.-18.00 น. รักษาเวลากันด้วยนะค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเวลาเข้า-ออกกันไม่ทัน

บทความจาก โรงแรม Le bar tarry

ติดต่อ/สำรองห้องพัก Tel: 094-7107701,042-889442

Face book fanpage :Le bar tarry

ปลายทางของการเริ่มต้น ที่โรงแรมLe bar tarry

โรงแรมLe bar tarry

โรงแรม Le bar tarry โรงแรมเล็กๆตั้งอยู่ที่อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย อยู่ระหว่างเส้นทางไป สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง ออกแบบสไตล์คันทรีฝรั่งเศส เพื่อให้ดูโดดเด่นและแตกต่าง โอบล้อมด้วยบรรยากาศสดชื่นของต้นไม้และ ทุ่งนา และกลิ่นอายบรรยากาศแบบท้องถิ่นชนบทที่ยังหลงเหลืออยู่ของชุมชน ประเพณีการใส่บาตรข้าวเหนียว และสินค้าอาหารพื้นบ้านของตลาดสดท้องถิ่น

สัมผัสกับการออกแบบห้องพักอย่างลงตัวสไตล์อบอุ่น เตียงนอนแสนสบายที่เราคัดสรรชุดเครื่องนอนชนิดพิเศษเพื่อลูกค้าคนสำคัญเช่นคุณ สะดวกสบายด้วยเครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น เพื่อให้คุณได้นอนหลับพักผ่อนอย่างแท้จริง ก่อนเริ่มต้นจุดหมายปลายทางต่อไป

ภายในห้องพัก

รูปถ่ายบรรยากาศภายในห้องพักของโรงแรม

บรรยากาศในห้องพัก

บรรยากาศภายในห้องพัก

ห้องน้ำภายในห้องพัก

บรรยากาศของโรงแรม

รูปถ่ายบรรยากาศภายนอกของโรงแรม

บรรยากาศภายนอก

บรรยากาศภายนอก

ป้ายหน้าโรงแรม

โรงแรม เลอร์ บาร์ ทาร์รี่

บรรยากาศแบบชนบทที่ยังมีหลงเหลือให้ได้สัมผัส

ประเพณีใส่บาตรข้าวเหนียว

บรรยากาศทุ่งนาด้านหลังโรงแรม

สอบถามและจองห้องพัก>>>

โทร: 094-7107701, 042-039838, 042-889442

FB Fan Page : โรงแรม Le bar tarry คลิ๊กเลย

ติดตามบทความดีๆของเรา คลิ๊กเลย

มาเที่ยวเมืองเลย แล้วคุณจะหลงรักจังหวัดเลย|ภูลมโล ดินแดนแห่งซากุระจังหวัดเลย

Cr.ภาพจาก Manager Online

คงมีหลายท่านที่ใฝ่ผันจะเดินทางไปชมความงามของดอกซากุระสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่น ซากุระจะบานแค่ปีละครั้ง  เวลาดอกซากุระออกดอกจะบานพร้อมกัน ดอกซากุระจะบานเพียงแค่ 1 สัปดาห์ แล้วจะร่วงพร้อมกัน เวลาที่ดอกซากุระร่วง จะเป็นภาพราวกับหิมะจำนวนมากกำลังตกลงมาจากท้องฟ้า เรียกว่า cherry blossoms blizzard คงมีหลายท่านที่ชื่นชอบความงานของทุ่งดอกไม้ ดิฉันจึงอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ ภูลมโล ดินแดนซากุระแห่งเมืองไทย ที่ท่านไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงประเทศญี่ปุ่น แต่ภูลมโลตั้งอยู่ในประเทศไทยเรานี่เอง ภูลมโลไม่ใช่ทุ่งดอกซากุระนะค่ะ แต่เป็นทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งนับแสนต้น ปลูกอยู่บนเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่

 เมื่อก่อนนี้บริเวณโดยรอบภูลมโลเป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีของชาวม้ง ต่อมาทางอุทยานต้องการให้ชาวม้งออกจากพื้นที่ จึงได้ตกลงให้ชาวม้งปลูกกะหล่ำปลีสลับกับปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งจนกระทั่งถึงวันนี้ไร่กะหล่ำปลีหายไปหมดแล้วเหลือเพียงต้นนางพญาเสือโครงที่กำลังเติบโต ออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งไปทั่วทั้งภูเขา   ภูลมโล เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก     

       ยอดภูลมโล มีความสูง 1,680 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูลมโลมีเขตติดต่อกับเทือกภูขี้เถ้า     

       ภูลมโล เป็นภาษาถิ่น หมายถึง ยอด ภูที่มีลมพัดผ่านเยอะ พัดผ่านมาก (โล : ภาษาถิ่น หมายถึง มาก หรือ เยอะ) หรือก็คือ ภูลมโล เป็นภูที่มีลมแรงพัดผ่านอยู่ตลอดทั้งปี

นอกจากท่านนักท่องเที่ยวทั้งหลายจะได้ชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลแล้ว ท่านยังจะได้ชมบรรยากาศอันงดงามของยอดภูลมโลยามพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีชมพู  เป็นภาพที่สวยงาม โรแมนติกเกินบรรยาย พร้อมๆกับสัมผัสอากาศหนาวเย็นของสายลมหนาว มีจุดชมวิวหลายจุดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสทัศนียภาพภาพที่งดงานและมุมถ่ายรูปส่วยๆ ที่บนภูลมโลไม่มีสถานที่พักแต่ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถกางเต๊นท์นอนชมบรรยากาศกันได้เต็มที่

    ท่านนักท่องเที่ยวทั้งหลายคงอยากทราบแล้วนะค่ะว่า ภูลมโลของเราตั้งอยู่ที่ไหน ภูลมโล ตั้งอยู่ในเขต ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างอุทยานภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก และภูทับเบิกของ จ.เพชรบูรณ์ สำหรับการเดินทางสู่ภูลมโลนั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างขรุขระ ไม่สะดวกต่อรถเก๋ง ทางอุทยานฯและอบต. กกสะทอน จึงไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปแต่จะมีบริการรถพาขึ้นไปชม-กลับ คันละ 1,000 บาท (คนละ 100 บาท) ไป-กลับได้ไม่เกินครั้งละ 5 คน ท่านสามารถนำรถมาจอดไว้ที่สถานที่ อบต.กกสะทอน จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความสะดวกสำหรับบริการนักท่องเที่ยวค่ะ ช่วงเวลาเบ่งบานของดอกนางพญาเสือโคร่ง จะบานเต็มที่ราวๆปลายเดือน มกราคม - ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แล้วแต่อากาศหนาวช้าหรือเร็ว ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนการเดินทางนะค่ะ

      หากหน้าหนาวนี้ ท่านใดที่ยังไม่มีโปรแกรมท่องเที่ยวที่ไหน ลองแวะมาสัมผัสอากาศหนาวและความงามของทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งกันเลยค่ะ สามารถโทรสอบถามรายละเอียดช่วงเวลาการบานของดอกไม้ ,จองสถานที่กางเต็นท์

 และสอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน อ.กกสะทอน โทร. 09-1373-0903, 08-0791-4748 หรือที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0-5535-6607

สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ในจังหวัดเลย และข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวภูลมโลได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย โทร. 0-4281-2812    

Cr.ภาพจาก Manager Online

Cr.ภาพจาก Manager Online

Cr.ภาพจาก Manager Online

     

"มากินดอกอัญชันเพียงวันละดอก"

                          สรรพคุณของอัญชันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสารที่ชื่อว่า “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีมากขึ้น ทำให้ผมดกดำ เงางาม หรือไปเลี้ยงบริเวณดวงตาจึงช่วยบำรุงสายตาไปด้วยในตัว หรือไปเลี้ยงบริเวณปลายนิ้วมือ ซึ่งก็จะช่วยแก้อาการเหน็บชาได้ด้วย และที่สำคัญสารนี้ยังมีความโดดเด่นที่ใครหลายๆคนยังไม่ทราบนั้นก็คือ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้และการ

“กินดอกอัญชันทุกวัน…วันละหนึ่งดอก”

จะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบได้อีกด้วยนะค่ะ

น้ำอัญชัน By Le bar tarry

ด้วยความปราถนาดีจาก

โรงแรม Le bar tarry

เพราะสิ่งนี้มีคุณค่ากับคุณเราจึงอยากแบ่งปัน | มาดื่มน้ำดอกอัญชันกันเถอะ

โรงแรมLe bar tarry

      โรงแรม Le bar tarry พยายามเป็นอย่างสูงที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเรา และเรารู้ว่าดอกอัญชันมีสรรพคุณมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นานมาแล้วที่มีการวิจัยออกมาว่า ดอกอัญชัน มีสารแอนโทไซยานิน ที่มีส่วนช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยลดอาการเส้นเลือดอุดตัน กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นแก้อาการตาฟาง และทำให้ผมดกดำเงางาม รากและเมล็ดใช้เป็นยาระบายได้อีกด้วย ในสมัยก่อนผู้หญิงในยุคโบราณนิยมนำมาเขียนคิ้วให้ดำขลับแทนดินสอเขียนคิ้ว (สมัยก่อนคงยังไม่มี) มีพระนิพนธ์นิราศธารโศก ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ที่มีการเปรียบเทียบคิ้วของผู้หญิงว่างามราวกับดอกอัญชัน ดังนี้

อัญชันเรียก อัญชัน ทาคิ้วมันกันเฉิดปลาย

ชำเลืองเยื้องชาย ชายชมนักมักแลตาม

อัญชันคนึงอ่าเจ้า  โฉมฉาย 

คิ้วเหลือบมันกันปลาย เฉิดช้อย

ชำเลืองเยื้องตาชาย เนืองนั่ง

ชมเพลินเดินคล้ายคล้อย บ่ายหน้าแลตาม

        เป็นไงค่ะรู้สึกเคลิ้มไปกับพระนิพนธ์กันไหม สาวๆยุคนั้นคงคิ้วเข้มตาคมกันน่าดูเลยนะค่ะว่ามั็ย เพราะอย่างนี้มั้งค่ะดอกอัญชันจึงเป็นที่รู้จักกันดี และยิ่งในยุคนี้มีเทรนด์ดื่มน้ำสมุนไพรสำหรับผู้รักสุขภาพกันมาก น้ำดอกอัญชัน ก็เป็นน้ำสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่ดื่มกันอย่างแพร่หลาย โรงแรม Le bar tarry จึงเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของดอกอัญชัน เริ่มแรกเราคิดว่าจะปลูกดอกอัญชันตามแนวรั้วเพื่อช่วยคลุมรั้วให้ดูสวยงามเท่านั้น ดอกอัญชันเป็นพืชไม้เลื้อยที่เจริญเติบโตง่าย ปลูกไม่ทันไรก็ขยายพันธ์อย่างรวดเร็ว ออกดอกสีน้ำเงินเต็มไปหมด เราจึงคิดว่าจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ดอกอัญชันเหี่ยวและหล่นทิ้งไปเฉยๆ เราจึงได้ศึกษาถึงสรรพคุณต่างๆของดอกอัญชันที่มีอยู่มากมาก และวิธีที่จะแปรรูปเป็นอาหารทีมีคุณค่า เพราะเราอยากให้ลูกค้าของเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด นอกเหนือจากการบริการที่ดี ห้องพักที่สะอาด เราจึงนำเสนอเมนูอาการทีมีส่วนผสมของน้ำสกัดจากดอกอัญชัน และเราพิถีพิถันในการทำน้ำอัญชัน เพื่อให้เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีคุณค่า นอกเหนือจากประโยชน์ที่จะได้รับจากดอกอัญชันแล้ว น้ำอัญชันยังให้ความรู้สึกสดชื่นเวลาดื่มอีกด้วย

น้ำอัญชัน

ดอกอัญชัน

อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะค่ะ

 มาเป็นเพื่อนกับเราที่Fanpage คลิ๊กที่นี่ 

หากคุณชอบโรงแรมของเราช่วยแชร์ต่อด้วยนะค่ะ ^^   

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเลย # สักการะหลวงปู่นาคมุจรินทร์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดพระธาตุมะนาวเดี่ยว

                           

พระธาตุมะนาวเดี่ยว

            ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวลาวที่มาช่วยกันสร้างพระธาตุศรีสองรัก ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ภายหลังสร้างพระธาตุเสร็จแล้วก็ได้พากันกลับประเทศลาว แต่มีบางส่วนไม่ยอมกลับและได้ตั้งถิ่นฐานรกรากอยู่ตามริมแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงก่อเกิดเป็นชุมชนและหมู่บ้านขึ้นมา วัดศิริมงคลนี้แต่เดิมเรียกว่า วัดศพเงินและภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศิริมงคล” โดยเอาชื่อของอดีตเจ้าอาวาส พระครูศิริมงคลพิทักษ์   มาตั้งเป็นชื่อใหม่ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดพระธาตุมะนาวเดี่ยว”ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอาฮี ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ตามเอกสารวัดของกรมศาสนา วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2284

หลวงปู่นาคมุจรินทร์

สถูปประดิษฐานของหลวงปู่นาคมุจรินทร์

             

            ที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปปางนาคปรก  มีชื่อว่า หลวงปู่นาค

มุจรินทร์ หรือ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า 'พระ พุทธรูปนาคปรกศิริมงคลรัตนะราชพิทักษ์โคดม' แกะสลักด้วยหินแกรนิต ศิลปะแบบสมัยลพบุรี ขนาดหน้าตักกว้าง 22 นิ้ว สูงจากฐานถึงยอดเศียร 48 นิ้ว มีลักษณะงดงาม สำหรับประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปองค์นี้ เล่ากันสืบต่อมาว่า  พระพุทธรูปได้ลอยทวนน้ำมาตามลำน้ำเหือง แล้วไหลมาวนอยู่ที่ท่าน้ำบ้านอาฮี ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญมาประดิษ ฐานไว้เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง และเชื่อกันว่า เป็นพระพุทธรูปที่สร้างมาพร้อมกับพระบาง ของ แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาวในสมัยนั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้วไม่สามารถอันเชิญพระพุทธรูปเข้าประดิษฐานในวิหารที่เตรียมไว้ให้ได้ พี่น้องชาวลาวในสมัยนั้นจึงได้อันเชิญพระพุทธรูปลงสู่แม่น้ำ เพื่อเสี่ยงทาย ปรากฏว่าพระพุทธรูปได้ลอยทวนน้ำมาตามลำน้ำเหือง ที่มีปากแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง พระพุทธรูปได้ไหลมาวนอยู่ที่ท่าน้ำบ้านอาฮี ชาวบ้านจึงอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่วัดศพเงิน หรือวัดศิริมงคล  ในอดีตพระพุทธรูปนาคปรกองค์นี้ จะมีลูกแก้วอยู่ที่เหนือพระนาภี และตรงพระชานุ และมีเรื่องเล่าขานกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้สามารถเหาะเหินเดินอากาศไปยังสถานที่ต่างๆได้ และบางทีได้หายไปจากที่ประทับหลายครั้งแต่ก็กลับมาที่ประทับดังเดิม  และในปี 2506 นั้นได้มีโจรใจบาปมาขโมยพระพุทธรูปที่วัด โดยช่วยกันหามออกไปในตอนกลางคืน ออกจากหมู่บ้านอาฮีไปได้ไม่ไกลนัก พระพุทธรูปก็แสดงปาฏิหาริย์ทำให้หนัก จนไม้ที่ใช้หามไปเกิดหัก พวกโจรไม่สามารถหามออกไปได้ พอรุ่งเช้าชาวบ้านรู้ว่าพระพุทธรูปโดนขโมยไปจึงช่วยกันออกตามหา พบพระพุทธรูปอยู่นอกดงไม้และไม้ที่พวกโจรใช้หาบหักทิ้งไว้ด้วยกัน ถึงพวกโจรจะขโมยพระพุทธรูปไปไม่ได้ แต่ก็ได้ทำลายพระกรข้างซ้ายหัก ชาวบ้านได้อันเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดดังเดิมและได้ช่วยกันซ่อมแซมพระกรข้างซ้ายให้ดีดังเดิม   ปัจจุบันหลวงปู่มุจรินทร์ประดิษฐานอยู่ที่สถูปศิลาแลงภายในวัด เพื่อให้ประชาชนชาวอำเภอท่าลี่และพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้กราบไหว้ขอพร

            หากท่านใดที่แวะมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเลย  มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่นาคมุจรินทร์ ก็อย่าลืมแวะไปกราบไหว้ขอพรกันนะค่ะ หมู่บ้านอาฮีอยู่ห่างจากตัวอำเภอท่าลี่ประมาณ 10 กิโลเมตร เดินทางสะดวก วัดหาง่ายค่ะ อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านอาฮีเลย

ข้อมูลอ้างอิง : เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลกลางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

นำเสนอบทความโดย : โรงแรม Le bar tarry

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อดอกอัญชันเป็นมากกว่าดอกไม้สีม่วง

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ l จากโรงแรมLe bar tarry

          คุณคงเคยเห็นดอกอัญชันสีม่วงที่ขึ้นอยู่ตามริมรั้วทั่วไปใช่ไหมค่ะ บางครั้งดอกไม้พวกนี้ดูเหมือนเป็นแค่ไม้เลื้อยที่สร้างความสวยงามตามรั้วบ้าน บางครั้งสร้างความน่ารำคาญอีกต่างหากเนื่องจากดอกอัญชันเป็นพืชประเภทไม้เลื้อยเติบโตได้เร็วมาก แถมปลูกทิ้งๆขว้างๆยังไงก็ขึ้นอยู่ดี ทำให้บางบ้านถึงกับต้องฟันทิ้งเพราะมันเลื้อยคลุมรั้วบ้านล้ำแดนไปถึงบ้านเพื่อนบ้านและส่วนอื่นๆของบ้านสร้างความน่ารำคาญให้เจ้าของบ้านมาก  

         ดอกอัญชันเป็นไม้เลื้อย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า  Clitornia ternatea  ลำต้นมีสีเขียวมีขน ใบสีเขียวเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ดอกสีน้ำเงินแก่ตรงกลางมีสีเหลืองบางชนิดมีสีขาว หรือสีม่วงอ่อน ผลแบบฝักถั่ว ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป ชอบความชื้นปานกลาง ขึ้นงอกงามดีในดินที่มีอินทรีย์วัตถุสูง ชอบแสงทั้งวันอัตราการเจริญเติบดีมาก นิยมปลูกตามรั้วเป็นซุ้ม เป็นพันธุ์ไม้ในเขตร้อน ขึ้นได้ทั่วไป แต่คุณทราบไหมค่ะว่าดอกอัญชันนอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว มีคุณประโยชน์มากมายที่คุณจะมองข้ามไม่ได้แล้วล่ะค่ะ

ดอกอัญชัน  มีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเล็กๆ ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมและนัยน์ตามากขึ้น สารแอนโทรไซยานินนี้จะพบในผลไม้และดอกไม้ที่มีสีน้ำเงิน สีแดง หรือสีม่วง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ โดยที่พืชจะสร้างสารนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันดอกหรือผลตัวเอง จากอันตรายของแสงแดดหรือโรคภัย ดอกอัญชันนำมาสกัดทำสีประกอบอาหารได้ ดอก มีคุณค่าทางสมุนไพรช่วยปลูกผม ราก บำรุงตาลดอาการของโรคทางสายตา แก้ตาฟาง ตาแฉะ  ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ รากใช้ถูฟันแก้ปวดฟัน

 สรรพคุณของดอกอัญชัน จึงสามารถสรุปออกมาได้คือ

-ให้คุณค่าทางอาหาร    สารอาหารให้สารสีฟ้า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย บำรุงผมให้สีเข้มเสมอ บำรุงสายตาป้องกันอันตรายจากแสงจ้า ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคร้าย

- มีสรรคุณทางยา ดอกมีคุณค่าทางสมุนไพรช่วยปลูกผม ราก บำรุงสายตา ลดอาการของโรคทางสายตา เช่น ตาฟาง ตาแฉะ ตาอักเสบ ตาเสื่อมจากเบาหวานปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ

              คุณคงเห็นประโยชน์ของดอกอัญชันตามที่กล่าวมาแล้วใช่ไหมค่ะ ว่ามีมากมายแค่ไหน ตอนนี้คุณคงตัดสินใจได้แล้วนะค่ะว่าควรจะบริโภคดอกอัญชันหรือเปล่า โรงแรม Le bar tarry เล็งเห็นถึงสรรพคุณของดอกอัญชันนี้ จึงได้นำดอกอัญชันมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารเป็น เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเรารู้ว่าสรรพคุณของดอกอัญชันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของเรา เมนูที่นำเสนอได้แก่ ข้าวสวยหุงอัญชัน ดอกอัญชันชุบแป้งทอดสูตรพิเศษจากทางโรงแรมของเรา และน้ำดอกอัญชัน ที่ดื่มเข้าไปแล้วเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย รสชาติกลมกล่อม

ร้านอาหารโรงแรม Le bar tarry บรรยากาศชิลๆ

แวะมาลิ้มลองเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
 ที่โรงแรม Le bar tarry ของเราซิค่ะ

ดอกอัญชันชุบแป้งทอด

เมนูแนะนำของเรา

ข้าวอัญชันกระเพาหมู

เบอร์โทรติดต่อ 094-7107701 , 042-039838

มาเป็นเพื่อนกับเราที่ Face book : คลิ๊กที่นี่ เรามีสิ่งดีๆมาแบ่งปันคุณอีกเพียบ
เลยค่ะ

หากคุณชอบโรงแรมของเรา ช่วยแชร์ต่อด้วยนะค่ะ^^